การเก็บข้อมูลของตัวแปร
การเก็บข้อมูลของตัวแปรมี 2 ลักษณะคือ
- เก็บค่าแบบค่าคงที่(constant)
- เก็บค่าแบบตัวแปร(variable)
1. ค่าคงที่เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขค่าได้เลย เช่น a=20;
2. การเก็บค่าแบบตัวแปรสามารถเปลี่ยนแปลงค่าเป็นอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ เช่น char ch;
3. การสร้างตัวแปรจะต้องทราบว่าตัวแปรนั้นเก็บค่าอะไร เช่น เลขจำนวนเต็ม เลขทศนิยม ข้อความ หรือตัวอักษร เป็นต้นโดยแบ่งออกเป็น ประเภทดังนี้
3.1 Character Variable ตัวแปรที่ใช้เก็บอักขระ
3.2 Integer Variable ตัวแปรที่ใช้เก็บเลขจำนวนเต็ม
3.3 Float Variable ตัวแปรที่ใช้เก็บเลขจำนวนทศนิยม
- เก็บค่าแบบค่าคงที่(constant)
- เก็บค่าแบบตัวแปร(variable)
1. ค่าคงที่เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขค่าได้เลย เช่น a=20;
2. การเก็บค่าแบบตัวแปรสามารถเปลี่ยนแปลงค่าเป็นอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ เช่น char ch;
3. การสร้างตัวแปรจะต้องทราบว่าตัวแปรนั้นเก็บค่าอะไร เช่น เลขจำนวนเต็ม เลขทศนิยม ข้อความ หรือตัวอักษร เป็นต้นโดยแบ่งออกเป็น ประเภทดังนี้
3.1 Character Variable ตัวแปรที่ใช้เก็บอักขระ
3.2 Integer Variable ตัวแปรที่ใช้เก็บเลขจำนวนเต็ม
3.3 Float Variable ตัวแปรที่ใช้เก็บเลขจำนวนทศนิยม
Character Variable
แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
- Char เก็บค่า ASCII ของตัวอักษรได้ตั้งแต่ -128 ถึง 127
- Unsigned char เก็บค่า ASCII ของตัวอักษรได้ตั้งแต่ 0-255
แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
- Char เก็บค่า ASCII ของตัวอักษรได้ตั้งแต่ -128 ถึง 127
- Unsigned char เก็บค่า ASCII ของตัวอักษรได้ตั้งแต่ 0-255
ตัวแปรแบบ character จะใช้ในกรณีที่เราต้องการเก็บอักขระ 1 ตัว เช่น a,bหรือ c เป็นต้น สิ่งที่เราเก็บก็คือ ตัวอักษร 1 ตัว ซึ่งมีค่า ASCII อยู่ระหว่าง 0 ถึง 255 ดังนั้นถ้าเราประกาศตัวแปรแบบ char เราจะใช้ตัวแปรนั้นเก็บข้อมูลได้เป็นค่าใดค่าหนึ่งในรหัส ASCII เท่านั้น
วิธีประกาศตัวแปรแบบ Character เขียนได้ดังนี้ charch; -128 ถึง 127
unsigned char c; 0 ถึง 255
ส่วนมากแล้วมักไม่มีความแตกต่างระหว่าง char และ unsigned char ดังนั้นจึงมักประกาศเป็น char เป็นส่วนใหญ่
unsigned char c; 0 ถึง 255
ส่วนมากแล้วมักไม่มีความแตกต่างระหว่าง char และ unsigned char ดังนั้นจึงมักประกาศเป็น char เป็นส่วนใหญ่
Integer Variable
แบ่งออกเป็น2 ประเภท คือ
- intหรือ short เก็บเลขจำนวนเต็มตั้งแต่ -32,768 ถึง 32,767
- Long เก็บเลขจำนวนเต็มตั้งแต่ -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647
แบ่งออกเป็น2 ประเภท คือ
- intหรือ short เก็บเลขจำนวนเต็มตั้งแต่ -32,768 ถึง 32,767
- Long เก็บเลขจำนวนเต็มตั้งแต่ -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647
วิธีการใช้คือถ้าต้องการตัวเลขจำนวนเต็มมากกว่า 32,767 เราจะต้องประกาศตัวแปรแบบ long ถ้าน้อยกว่าก็ประกาศแบบ int
ดังตัวอย่าง
inta,b,c;
int age;
int height;
long salary,money;
เราประกาศตัวแปร a,b,c age height แบบ int เนื่องจาก ต้องการให้เก็บค่าที่อยู่ระหว่าง -32,768 ถึง 32,767 เท่านั้น แต่ salary และ money มีโอกาสจะมีค่ามากกว่า นั้นดังนั้นจึงต้องประกาศเป็น long
ดังตัวอย่าง
inta,b,c;
int age;
int height;
long salary,money;
เราประกาศตัวแปร a,b,c age height แบบ int เนื่องจาก ต้องการให้เก็บค่าที่อยู่ระหว่าง -32,768 ถึง 32,767 เท่านั้น แต่ salary และ money มีโอกาสจะมีค่ามากกว่า นั้นดังนั้นจึงต้องประกาศเป็น long
Float Variable
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- Float เก็บทศนิยมได้ 3.4E+/-38 (ทศนิยม 7 ตำแหน่ง)
- Double เก็บทศนิยมได้ 1.7E+/-308 (ทศนิยม 15 ตำแหน่ง)
- Long Double เก็บทศนิยมได้ 1.2E+/-4932 (ทศนิยม 19 ตำแหน่ง)
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- Float เก็บทศนิยมได้ 3.4E+/-38 (ทศนิยม 7 ตำแหน่ง)
- Double เก็บทศนิยมได้ 1.7E+/-308 (ทศนิยม 15 ตำแหน่ง)
- Long Double เก็บทศนิยมได้ 1.2E+/-4932 (ทศนิยม 19 ตำแหน่ง)
กฎการตั้งชื่อตัวแปร
1. ต้องไม่มีอักษรพิเศษใดๆ ประกอบอยู่ด้วย เช่น ! @ # $ % ^ & * (
2. สามารถใช้เครื่องหมาย underscore ( _ ) ได้
3. ชื่อตัวแปรมีตัวเลขปนอยู่ได้ แต่ต้องไม่ขึ้นต้นด้วยตัวเลข
4. ห้ามมีช่องว่างระหว่างชื่อ
5. ใช้ได้ทั้งพิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่
6. ชื่อเหมือนกันแต่เป็นพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ ถือว่าคนละชื่อกัน
7. ห้ามตั้งชื่อซ้ำกับคำสงวน เช่น char long while do
1. ต้องไม่มีอักษรพิเศษใดๆ ประกอบอยู่ด้วย เช่น ! @ # $ % ^ & * (
2. สามารถใช้เครื่องหมาย underscore ( _ ) ได้
3. ชื่อตัวแปรมีตัวเลขปนอยู่ได้ แต่ต้องไม่ขึ้นต้นด้วยตัวเลข
4. ห้ามมีช่องว่างระหว่างชื่อ
5. ใช้ได้ทั้งพิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่
6. ชื่อเหมือนกันแต่เป็นพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ ถือว่าคนละชื่อกัน
7. ห้ามตั้งชื่อซ้ำกับคำสงวน เช่น char long while do